เปิดวิธีป้องกัน ถูกดูดเงินจากบัญชี ถ้าไม่อยากเงินหาย ทำด่วน!


เปิดวิธีป้องกัน ถูกดูดเงินจากบัญชี ถ้าไม่อยากเงินหาย ทำด่วน!

สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้ใช้บริการถูกโอนเงินจากบัญชีติดต่อกันหลายรายการจนในขณะนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กได้ออกมา "แชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากบัญชีไม่รู้ตัว" ระบุข้อความว่า

1.ตั้งบัญชีบัตรเดรดิตในการทำธุรกรรมในแอปพลิเคชั่นของธนาคาร ตั้งวงเงินให้กลายเป็น 0 บาท เมื่อต้องการใช้ซื้อของค่อยเข้าไปเปลี่ยนวงเงินที่ต้องการจะใช้ใหม่ โดยตั้งให้พอดีกับการใช้แต่ละครั้ง

2.ลบการผูกบัญชีบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต ที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่น เฟซบุ๊ก แอปพลิเคชั่นช้อปปิ้งต่างๆ และ ในระบบ google play หรือ apple store ออกให้หมด

3.สำหรับคนที่โดนหักเงินจาก facebook นำเงินไปจ่ายค่ายิงแอดโฆษณา ให้เข้าไปที่ดูการแจ้งเตือนว่า มีคนดึงบัญชีของเราเข้าไปบัญชีโฆษณาของ Facebook หรือไม่ หลังจากนั้นให้ไปไล่หาชื่อของเรา ตรงบทบาทผูดูแลบัญชี และกดลบผู้ใช้ออกทันที หลังจากนั้นให้ลบบัญชีที่ทำไว้เพื่อทำธุรกรรมผ่านเฟซบุ๊กออก

4.หากใครพบความผิดปกติของบัญชีธนาคารของตนเอง สามารถติดต่อสถาบันการเงิน เพื่ออายัดบัตร หรือ บัญชีโดยทันที ตามเบอร์โทรดังต่อไปนี้ตามภาพ


เปิดวิธีป้องกัน ถูกดูดเงินจากบัญชี ถ้าไม่อยากเงินหาย ทำด่วน!


เปิดวิธีป้องกัน ถูกดูดเงินจากบัญชี ถ้าไม่อยากเงินหาย ทำด่วน!

หลังจากนั้นเฟซบุ๊กเพจ เพจ Drama addict ได้ออกมาโพสต์ว่า

แนะวิธีการทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ในการผูกบัญชีเพื่อซื้อของอย่างปลอดภัย ผ่านแอปพลิเคชั่น หรือสโตร์ออนไลน์ โดยการเปิด ทรูวอลเล็ต แล้วใช้ บัตรเครดิต we card ในแอปฯ ไปผูกกับบัญชีออนไลน์ทั้งหมด แล้วรักษายอดเงินในวอลเล็ตไว้ที่หลักสิบบาท หลังจากนั้นหากต้องการจะต่อสมาชิกอะไร ให้เติมเงินตามจำนวนที่จะจ่าย แล้วกดจ่ายทันที สรุปคคือ ใช้บัญชีธนาคารเชื่อมกับทรูวอลเล็ตอันเดียว แล้วใช้ ทรูวอลเล็ต ไปผูกกับบริการอื่นๆแทน แล้วตั้งค่า sms ของบัญชีธนาคารให้แจ้งเตือนหากมีการทำธุรกรรมการเงินมีการเข้าออกของเงินในบัญชี เท่านี้ก็น่าจะปลอดภัยในระดับนึง

สำหรับแนวทางการป้องกัน กรณีที่คนร้ายได้ข้อมูลที่อยู่ด้านหน้าบัตร และตัวเลขรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร คนร้ายจึงสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่สูงได้ โดยไม่ต้องใช้ OTP

ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ ที่ต้องแจ้งข้อมูลด้านหน้าบัตรและรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร หากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด ขอให้พิมพ์ชื่อเว็บด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่มีความแนบเนียนมาก

นอกจากนี้ยังประชาชน ควรนำแผ่นสติ๊กเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร หรือจดรหัส 3 ตัวดังกล่าวเก็บไว้ แล้วใช้กระดาษทรายลบตัวเลขรหัสดังกล่าวออกจากด้านหลังบัตร เพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่ายประจำวัน และป้องกันมิจฉาชีพ มิให้แอบถ่ายรูปด้านหน้าและหลังบัตรเพื่อนำไปใช้จ่ายในโลกออนไลน์




เรียบเรียง : ทีมงาน Teenee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์