จับตา โอไมครอน BA.2 ระบาดเพิ่ม ไทยพบแล้ว2ราย


จับตา โอไมครอน BA.2 ระบาดเพิ่ม ไทยพบแล้ว2ราย


จับตาโอไมครอน BA.2 เริ่มแพร่กระจายมากขึ้น ศูนย์จีโนมฯ ตรวจพบสายพันธุ์ย่อย BA.2 ในไทยมีผู้ติดเชื้อแล้ว 2 ราย ขณะที่ทั่วโลกพบ 10,811 ราย

วันที่ 25 ม.ค. 25665 ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก Center for Medical Genomics เกี่ยวกับโอไมครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 และสายพันธุ์ย่อย BA.2 และ BA.3 ในประเทศไทย

ระบุว่า นอกจากโอไมครอนจะมีสายพันธุ์หลักเป็นB.1.1.529 หรือ BA.1 แล้วยังเริ่มมีการกลายพันธุ์ไปอีก 2 สายพันธุ์ย่อย คือ BA.2 และ BA.3

โอไมครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 ถูกถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างผู้ติดเชื้อทั่วโลกทั้งสิ้น 514,417 ราย (8%) พบในประเทศไทย 561 ราย (23%) กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น ประมาณ 60-70 ตำแหน่ง

โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 ถูกนำมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกแล้วทั้งสิ้น 10,811 ราย (<0.5%) พบในประเทศไทย 2 ราย(1%) กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น ประมาณ 70-80 ตำแหน่ง

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจพบ BA.2 จำนวน 1 ตัวอย่าง ด้วยเทคโนโลยี Mass array genotyping ซึ่งกำลังยืนยันผลด้วยเทคนิค Long read, whole genome sequencing คาดว่าจะแล้วเสร็จในอาทิตย์นี้

โอไมครอนสายพันธุ์ย่อย BA.3 ถูกนำมาถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างจากทั่วโลกประมาณ 86 ราย (0.5%) ยังไม่พบในประเทศไทย (not detected) กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น ประมาณ 55-65 ตำแหน่ง

การคัดกรองทางห้องปฏิบัติการเบื้องต้นเพื่อแยกสายพันธุ์เดลตา และโอไมครอน ออกจากกันมักจะตรวจโดยวิธี RT-PCR 3 ตำแหน่งบน 3 ยีน โดยเดลตาจะถูกตรวจด้วย RT-PCR ได้ครบทั้ง 3 ยีน ส่วนโอไมครอนสายพันธุ์หลัก BA.1ตรวจด้วยชุดตรวจ RT-PCR ได้เพียง 2 ใน 3 ยีน เนื่องจากตรวจไม่พบ S ยีน หรือมี S target failure (SGTF) เนื่องจากมีการกลายพันธุ์เกิดการขาดหายไปของกรดอะมิโนตำแหน่งที่ 69-70 (del 69-70) บนโปรตีนหนามจนตัวตรวจจับ (PCR primers) จับยีน S ไม่ได้

BA.2 บางครั้งถูกเรียกว่าสายพันธุ์ล่องหน (Stealth Variant)" เพราะสามารถตรวจ RT-PCR ได้ครบทั้งสามยีน ทำให้แยกไม่ออกระหว่างเดลตา กับ BA.2 เนื่องจากสามารถตรวจยีน S ของ BA.2 ด้วยชุดตรวจ RT-PCR ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดทั่วไปได้ สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UKHSA) ประกาศให้ BA.2 เป็นสายพันธุ์ที่ต้องสอบสวน (Variant Under Investigation: VUI) เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565

ส่วนที่ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ฯ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีจีโนไทป์ จึงไม่ประสบปัญหา S target failure (SGTF) สามารถพัฒนาให้ชุดตรวจตรวจจับทั้ง BA.1, BA.2, และ BA.3 และ เดลตา อัลฟา เบตา แกมมา ไปพร้อมกันได้ในหลอดเดียว (single tube reaction) ภายใน 24-48 ชั่วโมง ด้วยค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่าการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม BA.2 กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่น มากที่สุดประมาณ 70-80 ตำแหน่ง

อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนทางคลินิกว่ามีอาการรุนแรงกว่าโอไมครอนสายพันธุ์หลัก BA.1 หรือไม่ แต่คาดคะเนจากข้อมูลทางระบาดวิทยาว่าอาจแพร่ติดต่อได้เร็วกว่าโอไมครอน BA.1 อยู่บ้าง

BA.2 เคยได้รับความสนใจจากนักวิจัยทั่วโลกชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะหมดความสนใจไป เพราะพบการระบาดในวงจำกัด https://www.facebook.com/CMGrama/posts/4586461878128223

แต่ปัจจุบันกลับพบว่ามีการระบาดแพร่กระจายมากขึ้น โดยนักวิจัยสามารถถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างจากทั่วโลกได้แล้วทั้งสิ้นถึง 10,811 ราย

ส่วน BA.3 ทั่วโลกสามารถถอดรหัสทั้งจีโนมมาได้เพียง 86 ตัวอย่าง กลายพันธุ์ต่างไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิมอู่ฮั่นน้อยที่สุดประมาณ 55-65 ตำแหน่ง ไม่มีข้อมูลทางคลินิกมากนัก


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี Workpoint


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ดูดวง เลขบัตรประชาชน คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์