เมื่อความรักคือโรคร้ายที่เยียวยาได้ด้วยการแพทย์ในยุคกลาง
"ความรักคือโรคา บันดาลตาให้มืดมน" เป็นบทกวีที่เราได้ยินได้ฟังกันบ่อยครั้ง ผู้คนยังมักกล่าวกันว่าความรักทำให้เจ็บปวดทุกข์ทรมาน และหลายคนก็เกิดอาการเจ็บป่วยทางกายขึ้นมาจากเหตุความรักไม่สมหวังได้จริง ๆ ในยุคหนึ่งบรรดาผู้รู้มองว่า "ไข้ใจ" ชนิดนี้ สามารถจะรักษาให้หายขาดได้ด้วยเทคนิควิธีทางการแพทย์
ในยุคกลางของยุโรป เมื่อราวศตวรรษที่ 5 ถึงปลายศตวรรษที่ 15 นั้น ไข้ใจหรือโรคคลั่งรักเป็นความเจ็บป่วยที่ส่งผลกระทบรุนแรงทางกายด้วย และในบางครั้งหากไม่ได้รับการรักษาก็อาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ดร. ลอรา คาลาส ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณคดีและการแพทย์ยุคกลางจากมหาวิทยาลัยสวอนซีของสหราชอาณาจักร ได้เขียนบทความว่าด้วยการวินิจฉัยโรคไข้ใจและวิธีรักษาด้วยการแพทย์แผนโบราณ ซึ่งลงเผยแพร่ในเว็บไซต์วิชาการ The Conversation ไว้ดังนี้
"ความเชื่อเก่าแก่ที่ว่าความรักความผูกพันทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นได้นั้น ในปัจจุบันแวดวงวิทยาศาสตร์และการแพทย์ได้รับรองแล้วว่าเกิดขึ้นได้จริง โดยอิทธิพลจากความแปรปรวนของสารสื่อประสาทในสมอง เช่นโดพามีน อะดรีนาลิน และเซโรโทนิน ทำให้คนที่อยู่ในห้วงรักมีอาการเจ็บปวดไม่สบายกายขึ้นมาได้เช่นกัน"
"ตำราของกาเลน (Galen) แพทย์ชาวกรีกผู้พัฒนาวิธีวินิจฉัยและรักษาโรคตามหลักสมดุลของฮิวเมอร์ระบุว่า คนที่มีนิสัยเจ้าทุกข์มักมีแนวโน้มจะฟูมฟายโศกเศร้ากับความรัก รวมทั้งล้มป่วยด้วยไข้ใจได้ง่าย เนื่องจากมีน้ำดีดำอยู่มากเกินไป จนทำให้ภายในร่างกายเย็นและแห้ง"
"วรรณกรรมในยุคกลางกล่าวถึงอาการป่วยทางกาย ซึ่งเกิดจากความคิดถึงคะนึงหาคนรักอยู่บ่อยครั้ง เช่นในบทกวี Confessio Amantis หรือคำสารภาพของคู่รัก ซึ่งประพันธ์โดยจอห์น โกเวอร์ ในศตวรรษที่ 14 ชายผู้หนึ่งพร่ำรำพันอ้อนวอนต่อเทพีวีนัสว่า เขาต้องล้มป่วยและทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพราะความรัก จนอยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด จึงทำให้เทพีเห็นใจและนำยาทามาแต้มรักษาบาดแผลที่หัวใจ ขมับ และไตของเขา บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนอย่างสาหัสเหมือนไฟเผาลงได้"
"ตำราโบราณในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 ระบุว่า การปักใจหลงใหลและหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่บุคคลผู้เป็นที่รัก ทำให้อาการเจ็บป่วยยิ่งฝังลึกและยากที่จะรักษาได้ เพราะความเศร้าตรมจะทำให้ร่างกายเย็นลงเรื่อย ๆ และความเย็นจะยิ่งทำให้อารมณ์หม่นหมองลงไปอีกเป็นทวีคูณ"
"ดังนั้นวิธีรักษาไข้ใจจึงต้องทำให้ผู้ป่วยสงบสติอารมณ์ พักผ่อนและสูดยาดมช่วยผ่อนคลาย รวมทั้งต้องทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เช่นออกไปอาบแดดหรือรับแสงแดดในสวน อาบน้ำอุ่นที่ผสมพืชมีสรรพคุณให้ความชุ่มชื้น เช่นดอกบัวหรือดอกไวโอเล็ต"
"อาหารที่แนะนำสำหรับคนป่วยไข้ใจ ได้แก่เนื้อแกะ ไข่ ปลา ผักกาดหอม ผลไม้สุก และรากของต้นเฮลเลบอร์ (Hellebore) ส่วนน้ำดีดำในร่างกายที่มีมากเกินไป อาจขจัดออกได้ด้วยการกินยาระบายหรือยาถ่ายชนิดค่อนข้างแรง รวมทั้งใช้วิธีกรีดเลือด (Bloodletting) เพื่อถ่ายเลือดเสียออกมา ซึ่งเป็นวิธีที่แพทย์ในยุโรปนิยมใช้รักษาโรคหลายชนิดในยุคโบราณ"
"ถ้าหากวันวาเลนไทน์ปีนี้คุณรู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือรู้สึกเจ็บปวดเพราะความรักกำลังทิ่มแทงหัวใจ จนไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว อาจลองใช้วิธีรักษาแบบยุคกลางดูบ้างก็ได้"เครดิตแหล่งข้อมูล : bbc.com/thai