3 ตำนานข้าวผัดอเมริกัน มรดกจาก (ทหารอเมริกัน) ยุคสงครามเย็น?


3 ตำนานข้าวผัดอเมริกัน มรดกจาก (ทหารอเมริกัน) ยุคสงครามเย็น?

ข่าวการจากไปของคุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต ผู้ให้กำเนิดเมนู ‘ข้าวผัดอเมริกัน' ที่คนไทยทุกคนต้องรู้จักและก็ตั้งคำถามสงสัยว่าอยู่ในไทยแต่ทำไมชื่ออเมริกัน
.
หลายคนน่าจะนึกถึงยุคที่อเมริกันมาตั้งฐานทัพในไทย มีทหารอเมริกัน ภาพของความเป็นไทยที่เริ่มปรับเปลี่ยนทัดเทียมกับสากลมากขึ้น
.
อาหาร เปรียบเสมือนเครื่องบันทึกวัฒนธรรมและอิทธิพลต่างๆ ในแต่ละยุค และในช่วงยุคสงครามเย็น ก็ได้เกิดเมนูอาหารหนึ่งขึ้นมาคือ "ข้าวผัดเมริกัน" เมนูอาหารไทย ที่มีกลิ่นอายความเป็นอเมริกัน และถึงแม้จะไม่มีหลักฐานที่มาอย่างชัดเจนของข้าวผัดอเมริกันอย่างชัดเจน แต่ก็มี 3 ตำนานที่มาของข้าวผัดอเมริกัน ที่พอจะดูเป็นไปได้ที่สุด
.
ตำนานที่ 1

ในสมัยที่คุณหญิงสุรีพันธ์ มณีวัต ทำงานเป็นผู้จัดการราชธานีภัตตาคาร ในสนามบินดอนเมือง มีสายการบินหนึ่งสั่งอาหารเช้าไว้แต่ยกเลิกกะทันหัน ทำให้อาหารเช้าแบบอเมริกันที่เตรียมไว้ ประกอบด้วย ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก เหลืออยู่เป็นจำนวนมาก คุณหญิงจึงนำข้าวมาผัดกับซอสมะเขือเทศประกอบกับอาหารเช้าแบบอเมริกันเพื่อรับประทาน บังเอิญมีทหารอเมริกันผ่านมาเห็นแล้วอยากรับประทานบ้าง คุณหญิงจึงบอกว่าชื่อเมนู Amercan Fried Rice หรือข้าวผัดอเมริกัน ซึ่งคาดว่าเรื่องราวดังกล่าว น่าจะเกิดขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2492 - 2497

ตำนานที่ 2
ในช่วงที่ไทยยังเป็นที่ตั้งของฐานทัพอเมริกัน ในสงครามเวียดนาม มีพ่อครัวคนหนึ่งชื่อ "โกเจ๊ก" คิดค้นข้าวผัดอเมริกันขึ้นมาเพื่อให้บริการทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอุดรธานี ต่อมาได้รับความนิยมไปทั่ว
.
ตำนานที่ 3

คาดว่าถูกประยุกต์มาจากสูตรของ "ข้าวเม็กซิกัน" หรือ Mexican Rice ที่นำข้าวมาหุงหรือผัดกับมะเขือเทศ หรือซอสมะเขือเทศ เสิร์ฟกับไส้กรอก และต่อมาได้เพิ่มส่วนประกอบอื่นๆ เช่น ไข่ดาว ไก่ทอด เบคอน สันนิษฐานว่าน่าจะเข้ามาในไทยพร้อมกับทหารอเมริกันในยุคสงครามเย็น

จะเห็นได้ว่า แม้ว่าทั้ง 3 ตำนาน จะไม่มีได้ต้นกำเนิดจากคนอเมริกันเลยสักทีเดียว แต่ก็มีจุดเชื่อมโยงกันอยู่ 2 อย่าง คือ ทหารอเมริกัน และ ยุคสงครามเย็น อาจกล่าวได้ว่าเมนูข้าวผัดอเมริกัน ที่ไม่ได้มีขายในอเมริกันนี้ เป็นเมนูที่เป็นเศษซากมรดกที่ตกทอดมาจากยุคสงครามเย็น จนกลายมาเป็นเมนูอาหารที่ถูกปากคนไทย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เป็นอย่างดีมาจนถึงทุกวันนี้



เครดิตแหล่งข้อมูล : FB จานโปรด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์