เผยปม กรมพระราชวังบวรฯ ทำ พระเพทราชา ทรงประชวรหนัก-สวรรคต
เผยปมเสียพระทัย กรมพระราชวังบวรฯ ทำ ‘พระเพทราชา' ทรงประชวรหนัก-สวรรคต ขณะครองราชย์ได้ 15 ปี สิริพระชนมพรรษาได้ 71 พรรษา
เป็นอีกตัวละครสำคัญและมีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ สำหรับ สมเด็จพระเพทราชา ที่รับบทโดยดาราหนุ่ม บิ๊ก ศรุต โดยในละครพรหมลิขิต หรือภาคต่อของบุพเพสันนิวาส ซึ่งแฟนๆ อาจได้เห็นสมเด็จพระเพทราชาน้อยลง
โดย บิ๊ก ศรุต โพสต์ไอจีอำลาแฟนๆ ระบุข้อความว่า "ลาแล้วหนาออเจ้า พรหมลิขิตนำพาเรามาเจอกันแค่นี้.. แต่พรหมลิขิตก็จะนำพาออเจ้าทั้งหลายไปสู่ยุคของพระเจ้าท้ายสระต่อไป ขอให้สนุกและเพลิดเพลินกับ "พรหมลิขิต" กันต่อนะออเจ้า #พรหมลิขิต #ช่อง3กด33 ปล.แคปชั่นลอกพ่อเดื่อเค้ามา"
หากย้อนไปดูในประวัติศาสตร์จะทราบว่า ปี พ.ศ.2231 เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชประทับ ณ พระที่นั่งสุทธาสวรรค์ ทรงพระประชวรใกล้สวรรคต ทรงเห็นว่าพระเพทราชาเป็นผู้ใหญ่ จึงมอบหมายให้ว่าราชการแทน
ระหว่างนั้นพระเพทราชาลวงพระอนุชาทั้งสองพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์ คือ เจ้าฟ้าน้อยและเจ้าฟ้าอภัยทศว่ามีรับสั่งให้เข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองพระองค์เสด็จถึงเมืองลพบุรีก็ถูกหลวงสรศักดิ์จับไปสำเร็จโทษที่วัดทราก(วัดซาก) ส่วนพระปีย์พระราชโอรสบุญธรรมถูกขุนพิพิธรักษา ผลักตกจากชาลาพระที่นั่งสุทธาสวรรค์แล้วกุมตัวไปสำเร็จโทษ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงได้ยินเสียงพระปีย์ แล้วเสด็จนั่งขึ้นได้จึงตรัสว่า "ใครทำไมแก่อ้ายเตี้ยเล่า" แล้วเสด็จสวรรคตในวันนั้น
ต่อมาเมื่อพระชนมพรรษาครบรอบ 56 พรรษา สมเด็จพระเพทราชาทรงกระทำพระราชพิธีราชาภิเษก การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้เป็นไปตามโบราณราชประเพณีเหมือนพระราชพิธีราชาภิเษกครั้งสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
สมเด็จพระเพทราชา เป็นพระมหากษัตริย์ต้นราชวงศ์บ้านพลูหลวงและอยู่ในราชสมบัตินาน 15 ปี
จากนั้น ปี พ.ศ. 2246 สมเด็จพระเพทราชาทรงประชวรหนักอยู่ ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์มหาปราสาทจวนใกล้เสด็จสวรรคตนั้น พร้อมระบุว่า
"ครั้นถึงเดือนสาม สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงพระประชวรลงได้ประมาณ 15 วัน และพระโรคนั้นกำเริบหนักลงจะเสวยพระกระยาหารก็ไม่ได้ เกือบใกล้สวรรคตอยู่แล้ว แลพระราชวงศานุวงศ์ และท้าวข้าทูลละอองธุรีพระบาทผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งหลายก็เข้าไปนอนอยู่ในพระราชวังพร้อมกันสิ้น..."
เกิดเหตุการณ์กรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์ จับเจ้าพระขวัญไปสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ในตำหนัก แล้วให้ข้าหลวงนำพระศพไปฝัง ณ วัดโคกพระยา ด้วยทรงเห็นเจ้าพระขวัญกับกรมหลวงโยธาทิพนั้น เป็นที่รักใคร่ของประชาราษฎร์ทั้งปวง มีขุนนางให้ความนิยมนับถือกันมาก
กรมหลวงโยธาทิพ จึงเสด็จเข้าเฝ้าสมเด็จพระเพทราชากราบทูลมูลคดีทั้งปวง สมเด็จพระเพทราชาทรงฟังก็ตกพระทัยอาลัย ทรงพระพิโรธกรมพระราชวังบวรฯ และทรงไม่ให้ราชสมบัติ
ทรงดำรัสว่า "กูไม่ให้ราชสมบัติแก่ไอ้สามคนพ่อลูกนี้แล้ว" สมเด็จพระเพทราชาทรงตรัสเรียกหาเจ้าพระพิไชยสุรินทร์ราชนัดดาให้เข้าเฝ้าและพระกรุณามอบเวนราชสมบัติให้แก่เจ้าพระพิไชยสุรินทร์ แทน (ในกาลภายหลังเจ้าพระพิไชยสุรินทร์ได้ถวายราชสมบัติแด่กรมพระราชวังบวรพระมหาอุปราชสรศักดิ์)
ในเพลาราตรีในคืนนั้น สมเด็จพระเพทราชาก็เสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ในเดือน 5 ปีฉลูนพศก นั้นตรงกับปี พ.ศ.2246 สิริพระชนมายุได้ 71 พรรษา เช่นเดียวกับพระราชพงศาวดาร ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์ วัดพระเชตุพน ฉบับตัวเขียน ระบุว่าสวรรคต ณ พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ ขณะครองราชย์ได้ 15 ปี สิริพระชนมพรรษาได้ 71 พรรษา